Page 331 - kpi19903
P. 331
294
1) ผลการส ารวจพบว่าปัจจัยที่ประชาชนให้ความส าคัญมากในการเลือกนักการเมืองโดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 7
อันดับคือ 1. ชื่อเสียงทางด้านความซื่อสัตย์ 2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหาชุมชน 3. มีวิสัยทัศน์ และความคิด
ที่ก้าวหน้า 4. ท าประโยชน์ต่อชุมชน 5. ประสบการณ์ทางการเมือง 6. ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ติดต่อได้ง่าย
และ 7. สามารถน าเงินมาให้ท้องถิ่น
ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงบุกเบิกพบว่าปัจจัยในการเลือกนักการเมืองของประชาชนมี 4
องค์ประกอบคือ 1. ความเป็นพรรคพวกเดียวกันและพึ่งพิงได้ 2. วิสัยทัศน์และการพัฒนา 3. ความชอบและการ
เข้าถึงได้ง่าย และ 4. ประสบการณ์ทางการศึกษาและทุนมนุษย์
ผลการศึกษาความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบปัจจัยในการเลือกนักการเมืองระหว่างประชาชนที่เลือก
พรรคการเมืองแตกต่างกันทั้งการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อพบว่า
1. ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบความเป็นพรรคเป็นพวกเดียวกันและพึ่งพิงได้ของประชาชนที่เลือกพรรค
ประชาธิปัตย์มีค่าสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่น ๆ
2. ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบวิสัยทัศน์และการพัฒนาของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ พรรค
เพื่อไทย และพรรคอื่น ๆ ไม่แตกต่างกัน
3. ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบความชอบและการเข้าถึงได้ง่ายของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์
และประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่มีค่าสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรคอื่น ๆ และ
4. ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบประสบการณ์ทางการศึกษาและทุนมนุษย์ของประชาชนที่เลือกพรรค
ประชาธิปัตย์มีค่าสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย และพรรคอื่น ๆ
2) ผลการส ารวจพบว่าปัจจัยในการเลือกพรรคการเมืองที่ประชาชนให้ความส าคัญมากสูงสุด 3 อันดับคือ
1. นโยบายของพรรค 2. ผู้น าพรรค และ 3. ความส าเร็จของพรรค
ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงบุกเบิกพบว่าปัจจัยในการเลือกพรรคการเมืองของประชาชน
ประกอบด้วยสององค์ประกอบคือ 1. ผลงานของพรรค และ 2. แนวคิดที่คล้ายกันกับตนเอง
ผลการศึกษาความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบปัจจัยในการเลือกพรรคการเมืองระหว่างประชาชนที่
เลือกพรรคการเมืองแตกต่างกันทั้งการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อพบว่า
ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบผลงานของพรรคของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์มีค่าสูงกว่า
ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรคอื่น ๆอย่างมาก
ค่าเฉลี่ยคะแนนองค์ประกอบแนวคิดที่คล้ายกันกับตนเองของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์มีค่าสูง
กว่าประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและสูงกว่าประชาชนที่เลือกพรรคอื่น ๆ อย่างมาก
3) ผลการส ารวจพบว่าค่านิยมที่มีต่อพฤติกรรมของ ส.ส. ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 5 อันดับคือคือ 1. ประสานงาน
กับหน่วยงานราชการในจังหวัดเพื่อผลักดันนโยบายต่าง ๆ 2. ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อ